วันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2554

เมื่อวันที่ชีวิตเป็นเรื่องง่าย

เกริ่นนำ

ฉันขอเล่าเรื่องฉันแบบเรียบง่ายสั้นๆเพื่อทำความรู้จักกันในฐานะเพื่อนระหว่างผู้อ่านกับผู้เขียน มันคงจะไม่ดีถ้าเพื่อนจะไม่รู้จักเพื่อน จริงไหมคะ ก่อนที่เราจะก้าวไปข้างหน้าในความมหัศจรรย์แห่งชีวิตไปด้วยกัน เราควรจะรู้ว่าเพื่อนเราเป็นใคร แล้วถ้าใครอยากจะแบ่งปันเรื่องชีวิตให้กับฉัน ฉันก็จะรู้สึกยินดีอย่างยิ่งค่ะ

คุณอาจเรียกฉันว่าสาริสา มันเป็นชื่อที่ฉันชอบใช้เมื่อเริ่มเขียนอะไรใหม่ๆ ฉันเป็นคนชอบเรียนรู้และเฝ้ามองโลกและชีวิตด้วยเครื่องหมายคำถาม มีเรื่องมากมายที่เหมือนคลับคล้ายคลับคลาว่าฉันจะจำได้ บางทีฉันก็รู้สึกว่าฉันเคยไปที่แห่งนี้แม้นั่นจะเป็นครั้งแรกที่ฉันเคยไป มันทำให้ฉันพิศวง

ฉันมองโลกมองผู้คนที่ผ่านเข้าออกในชีวิตฉันด้วยความสงสัย ทำไมบางครั้งคนคนหนึ่งจึงเข้ามาในชีวิตราวกับว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่ฉันไม่อาจจะขาดได้ หากแต่เวลาผ่านไป นานแค่ไหนฉันก้ยังไม่เคยจดสถิติ ผู้คนเหล่านั้นก็ออกจากชีวิตฉันไป ราวกับว่าพวกเขาไม่เคยมีตัวตนมาก่อน

ฉันเริ่มศึกษาเรื่องน่าแปลกใจที่คนอื่นอาจไม่รู้สึกแปลกเมื่อสิบปีก่อน ฉันอ่านหนังสือเกี่ยวกับชีวิตหลังความตาย ฉันอ่านหนังสือเกี่ยวกับชาติภพ ฉันอ่านหนังสือเกี่ยวกับแนวนิวเอจ(ถ้าจะมีใครไม่เข้าใจคำว่านิวเอจนี้ ฉันขออธิบายสั้นๆตอนนี้ก่อน นิวเอจคือแนวคิดเกี่ยวกับทางเลือกใหม่ของผู้คนที่แสวงหาทางออกที่ไม่อิงศาสนา เป็นลัทธิที่เชื่อว่าตนเท่านั้นที่มีอำนาจสูงสุด)จนกระทั่งฉันเริ่มมีความฝันซ้ำๆ

ช่วงนั้นเป้นช่วงเวลาที่ฉันกำลังรู้สึกตกต่ำที่สุดในชีวิต ฉันนอนหลับทุกคืนด้วยความรู้สึกต่ำต้อย ยากจนและไร้คำตอบ จนกระทั่งคืนหนึ่งที่ฉันเริ่มฝันซ้ำๆ ฉันฝันถึงปลาช่อนตัวใหญ่มากในเข่งของแม่ค้าในตลาด

 หลังของมันมีรอยถลอกปอกเปิกจากการดิ้นรนเอาชีวิตรอด แววตามันไร้หนทางและเศร้าสร้อย มันพยายามดิ้นรนเพื่อหนีจากเข่งปลาจนหมดแรง คีบเล็กๆสองข้างเหวี่ยงสุดแรงเพื่อดันตัวเองให้กระโดดสูงพอที่จะออกนอกเข่ง แต่มันไม่เคยหลุดพ้น มันนอนหมดเรี่ยวแรงสักพักก่อนที่จะกระโดดต่อเมื่อมีแรงอีกครั้ง

ฉันฝันแบบนี้คืนแล้วคืนเล่า...

คุณว่าถ้าฝันแบบนี้ในคนไทยนับถือพุทธตามทะเบียนบ้านอย่างฉันจะคิดอะไรได้บ้าง

...ฉันควรจะตีเป็นหวยไหม บางทีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อาจจะบันดาลให้ฉันร่ำรวยขึ้นมาจากโชคลาภนี้ก็ได้ ไม่แน่ว่าบุญเก่าฉันอาจจะมี ฉันเองก็ทำบุญหวังบุญออกจะบ่อยไป เวลาทำบุญทีไรฉันก็ขอยาวเหยียด หรือพวกคุณไม่เคย ที่ฉันขอบ่อยๆคือขอให้ชีวิตฉันมีความสุขความเจริญ ขอให้ฉันสำเร็จสมหวังและอื่นๆอีกมากมาย มันมากมายและน่าละอายเกินกว่าจะจารไนหมด

...หรือว่า...นี่คือเจ้ากรรมนายเวรของฉัน ฉันเคยไปทำกรรมมาแต่ครั้งใด ช่วงไหนในชีวิตชาติภพนี้ หรือชาติภพก่อนหน้านี้ เขาจึงมาเข้าฝันและทวงหนี้กรรม...

ทุกเช้าฉันจะตื่นมาไม่เป็นสุข แววตาปลาตัวนั้นยังตรึงตราอย่างไม่รู้ลืม ตาดำขลับเศร้าสร้อยและพยายามอย่างที่สุด

ฉันจึงเริ่มต้นค้นหาเรื่องราวเกี่ยวกับความฝัน แปลความหมายของฝันและแน่นอน ฉันกำเงินที่มีเพียงน้อยนิดเข้าตลาดและหาซื้อปลาช่อนตัวใหญ่อย่างที่เห็นในฝันปล่อยลงคลองวันแล้ววันเล่า ซึ่งช่วงนั้นมันก็นำความสุขใจให้ฉันชั่วขณะยามที่ฉันคิดว่าฉันได้ช่วยชีวิตๆหนึ่ง แต่ฉันก็ยังคงฝันต่อไป

จนกระทั่งฉันมาพบกระทู้ในเวบบอร์ดแห่งหนึ่งที่พูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องความฝัน ห้องเรียนแห่งความฝัน ฉันนั่งอ่านเรื่องราวที่พูดคุยกันโดยมีจุดเริ่ม้นเกี่ยวกับหญิงสาวคนหนึ่งที่เธอเริ่มเขียนหนังสือชุดโนวา อนาลัย 10 เล่ม โดยเรื่องราวที่เธอเขียนนั้นเป็นเรื่องราวที่เธอได้รับการถ่ายทอดจากท่านอาจารย์โนวา อนาลัยผ่านความฝัน

อาจารย์โนวา อนาลัยเป็นจิตวิญญาณที่ไม่มีตัวตนแต่มีตัวตน เรื่องราวในหนังสือชุดโนวา อนาลัยทั้งสิบเล่มเป็นเรื่องราวที่อัศจรรย์และเหลือจะเชื่อ หนังสือชุดนี้เกิดขึ้นพร้อมกันทั้งสิบเล่ม ไม่มีเล่มใดก่อนหรือหลัง แล้วที่น่าฮัศจรรย์ยิ่งกว่าคือพี่นักเขียนหรือพี่ต๋อม ผู้เขียนเรื่องนี้จากบันทึกความทรงจำในฝันพิมพ์ต้นฉบับหนังสือชุดนี้เป็นภาษาไทยจากคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คที่ไม่มีแป้รภาษาไทยและพี่นักเขียนก็พิมพ์สัมผัสไม่เป็น ไว้ฉันจะเล่าเรื่องพี่ต๋อมในภายหลังเพราะเรื่องของพี่ยังมีความน่าทึ่งอีกมากมาย ตอนนี้ขอให้ฉันได้เขียนเรื่องราวตอนนี้ให้จบก่อนที่ฉันจะหลงลืมประเด็นที่ตั้งใจ

หลังจากที่ฉันใช้เวลาช่วงนั้นทั้งหมด อ่านเรื่องราวและกระทู้นั้นจนหมด ฉันก็ตัดสินใจว่าฉันจะเรียนรู้เรื่องความฝันและแปลความหมายของมันให้ได้

ฉันจึงเริ่มหัดจดจำความฝันตามคำแนะนำของพี่นักเขียน นั่งสมาธิตามคำแนะนำจากคนนั้นคนนี้รวมถึงพี่นักเขียนด้วย แต่จนแล้วจนรอดฉันเองก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ ไม่สามารถแปลความหมายของความฝันได้ แต่ฉันก็พยายามจดความฝันคืนแล้วคืนเล่า

ขอสารภาพตามตรง จนกระทั่งก่อนหน้านี้สักสิบนาที ฉันยังไม่เคยตีความความฝันเรื่องปลานั้นออกได้เลย แม้เรื่องมันจะผ่านมานานถึงสี่ปีแล้วก็ตาม แต่หลังจากที่ฉันนั่งลงบันทึกเรื่องราวความมหัศจรรย์แห่งชีวิตที่ฉันได้รับ ฉันเพิ่งจะแปลความหมายออก ปลาตัวนั้นหมายถึงฉันนั่นเอง แววตาที่ทรหดและพยายามดิ้นรนต่อสู้บอกฉันในช่วงขณะนั้นที่ฉันหมดแรงใจที่จะต่อสู้กับชีวิตที่เหนื่อยยากว่าฉันยังมีหนทาง

นาทีนี้ฉันขอบอกคุณว่าขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ ขอบคุณชีวิต ขอบคุณพลังมหัศจรรย์แห่งปัจจุบันขณะ ขอบคุณพี่นักเขียนชุดโนวา อนาลัย ขอบคุณทุกสิ่งที่ผ่านเข้าในชีวิต ขอบคุณคุณผู้อ่านและขอโอกาสให้ฉันได้แบ่งปันเรื่องราวของฉันให้คุณ เผื่อว่าเรื่องราวชีวิตของฉันที่จะเล่าความลับบางอย่างจะทำให้บางคนที่กำลังสิ้นแรงใจในชีวิตขณะนี้ได้ลุกขึ้นสู้ ความลับที่คุณจะอุทานออกมาอย่างที่ฉันอุทานเมื่อล่วงรู้ความลับนี้

" ชีวิตช่างเป็นเรื่องง่ายเหลือเกิน! "

2 ความคิดเห็น:

  1. งานเขียนของคุณสาริสามีคนติดตามนะครับ อย่างน้อยในที่ทำงานผมก็มีสองคน ขอให้เขียนต่อไป จะติดตามไปเรื่อยๆ ครับ ว่างๆ ก็จะหัดเขียนบ้างเหมือนกัน นับเป็นแรงบันดาลใจอีกแรงหนึ่งทีเดียว/จากเพื่อนห้องฝัน

    ตอบลบ
  2. อ่านบล็อกนี้แล้วก็เบาโล่งขึ้นทันทีได่เหมือนกันค่ะ

    ตอบลบ